ความหลากหลายของคำ

เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมภาษาอังกฤษมีคำความหมายซ้ำ ๆ กันเยอะเหลือเกิน ภาษาไทยเราก็มี แต่ภาษาอังกฤษมีเยอะกว่า  วันนี้ผมฟังข่าวทางทีวี ได้ยินคนประกาศข่าวพูดถึงดรรชนิหุ้นของสหรัฐขึ้นว่า

  • Today the Dow Jones Industrial Average gained 60 points, the Nasdaq rose 20 points, and the S&P 500 added 10 points.   ถ้าเป็นผู้ประกาศข่าวไทยก็คงพูดว่า วันนี้ดรรชนิดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้น 60 จุด ส่วนแนสแดกสูงขึ้น 20 จุด และ เอสแอนพี 500 สูงขึ้น 10 จุด

เห็นความแตกต่างไหมครับ ฝรั่งเห็นว่า การใช้คำให้หลากหลายทำให้ภาษาดูสวย ทำให้ดูเหมือนคนมีความรู้ดี ไม่จำเป็นต้องใช้ศัพท์ยาก แต่ใช้ให้หลากหลาย เขาถึงนิยมใช้พจนานุกรมคำเหมือน (synonyms) และคำต่าง (antonyms) พจนานุกรมนี้ก็เรียกว่า thesaurus  (-ธี-[สอ]-รัส-)คนที่เป็นนักเขียนมืออาชีพบางคนก็มันมีไว้ติดมือ บางทีอยากจะได้คำที่ความหมายเหมือนกัน หรือคล้ายกัน แต่นีกไม่ออกก็เปิดพจนานุกรมเอาเป็นการช่วยนึก

การใช้ thesaurus ก็ใช้ซี๊ซัวไม่ได้ ต้องรู้ความเหมาะสมของคำ และสถานการณ์ด้วย เพราะคำที่ความหมายคาบเกี่ยวแต่ไม่ตรง 100 % ก็มีรวมอยู่ด้วย ต้องระวังคำที่เราไม่รู้จักเลย  อย่างที่ว่า เป็นแค่เครื่องช่วยนึกเฉย ๆ  ก่อนจบลองมาดูประโยคเดียวกัน แต่คราวนี้เอาตอนหุ้นตกบ้าง

  • Today the Dow Jones Industrial Average lost 60 points, the Nasdaq fell 20 points, and the S&P 500 slip 10 points.

 

Updated: 7 พฤษภาคม 2014

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

16 − five =

Copyright © 2013-2024 betterenglishforthai.net