ทนไม่ไหวแล้ว

พูดถึงศัพท์ความอดทนแล้ว มาดูภาษาพูดเกี่ยวกับความอดทนหน่อย ซึ่งรู้ศัทพ์แล้วก็ไม่จำเป็นว่าจะพูดถูกครับ เราต้องรู้ด้วยว่าเขาพูดกันอย่างไร อันแรกคือ ฉันทนไม่ไหวแล้ว

  • I can’t stand it. นี่ก็ใช้กันโดยทั่วไป ทั้งทนแบบเล็ก ๆ ถึงใหญ่ ๆ ถ้าจะให้ชัดเจนว่า ทนมานานแล้วแต่ทนต่อไปไม่ไหวก็พูดว่า I can’t stand it any more.

Patience, Tolerance, Endurance

ความอดทนของฝรั่งมีสามระดับครับ มาเรียงกันจากระดับต่ำไปสูง

1) Patience ([เพ]-เฉียนส) มีคำคุณศัพท์ว่า patient เป็นระดับต่ำสุด คือ การอดกลั้น ทนรอ ทนหงุดหงิด คนที่มี patience ก็คือ คนที่ใจเย็น ไม่หงุดหงิด ไม่โกรธง่าย เช่น

  • Be patient.

เป็นร้อย ๆ พัน ๆ

มาดูเรื่องการพูดตัวเลขร้อย พันกันต่อ

  • คนเป็นร้อย ๆ hundreds of people
  • คนเป็นพัน ๆ thousands of people
  • คนเป็นหมื่น ๆ tens of thousands of people
  • คนเป็นแสน ๆ hundreds of thousands of people
  • คนเป็นล้าน ๆ millions of people

เรื่องของตัวเลข พัน หมื่น แสน

เรื่องการอ่านตัวแลข ภาษาอังกฤษ กับภาษาไทยเรา อ่านไม่เหมือนกัน ก็เป็นเรื่องที่ทำให้คนมือใหม่ ต้องฉุกคิดนิดหนึ่งเพื่อแปลไทยเป็นอังกฤษ หรืออังกฤษเป็นไทย ลองมาหัดฟัง หัดพูดให้ชินครับ ลองมาดูตัวอย่าง

  • 1,000: one thousand หรือ a thousand อันนี้ไม่มีปัญหาอะไร
  • 1,500: จะพูดว่า one thousand five hundred ก็ได้ แต่คนส่วนใหญ่มักพูดว่า fifteen hundred เพราะมันกระทัดรัดกว่า นี่ก็ทำให้เป็นปัญหาสำหรับคนไทย เพราะเราไม่พูดอย่างนี้ในภาษาไทย ก็จำหลักไว้ว่า จำนวนที่มีทั้งหลักพัน และร้อย สามารถพูดควบกันได้อย่างนี้
  • 4,826: forty eight hundred and twenty six สังเกตว่า and จะใช้เชื่อมระหว่างหลักสิบกับหลักร้อยนะครับ จะใช้แบบยาวก็ยังอยู่ที่ตำแหน่งเดิมเป็น four thousand eight hundred and twenty six.

Stand Up

ช่วงนี้ผมดูข่าวการเมืองสหรัฐมากหน่อยครับ เพราะปีนี้เป็นปีเลือกตั้ัง ก็ขอเอาศัพท์ที่ได้ยินบ่อย ๆ มาเล่ากันฟันหน่อย stand up แปลตามตัวแปลว่า ยืนขึ้น แต่ยังมีอีกความหมายหนึ่ง เป็นความหมายทางประชาธิปไตย stand up เหมือนเป็นการยืนขึ้นเพื่อต่อสู้ เพื่อแสดงจุดยืน โดยมากก็เป็นการต่อสู้แบบอหิงสานะครับ ไม่จำเป็นต้องหมายถึง ไปชุมนุมประท้วงเสมอไปนะครับ อาจจะแค่ลงชื่อสนับสนุน  บริจาคเงิน เขียนจดหมายถึงผู้แทน แจ้งสื่อมวลชล และอื่น ๆ จนถึง ไปประท้วง ไปฟ้องศาล หรืออะไรสุด ๆ ตามที่กฏหมายอำนวย (หรือไม่ก็แล้วแต่)

ถ้าเราใช้ stand up to something / someone ก็แปลว่า ต่อสู้ หรือต่อต้านกับอะไรสักอย่างที่ไม่ดี  จะใช้ against แทน to ในที่นี้ก็ได้ แต่ถ้าเราใช้ว่า stand up for something / someone  แค่เปลี่ยนตัวบุพบทจาก to เป็น for ก็เปลี่ยนความหมายเป็น ต่อสู้เพื่อสนับสนุนอะไร หรือใคร เช่น

  • We must all stand up to injustice.

ภาษาอังกฤษ คือ ภาษาสากล

ภาษาอังกฤษ ปัจจุบันถือเป็นภาษาสากลครับ ถือแม้พูดกันรู้เรื่อง หรือพอรู้เรื่องกันทั่วโลก ก็มีข้อปลีกย่อยที่แตกต่างกันมากมาย ไม่เพียงแต่สำเนียง คำศัพท์ หรือสำนวน บางทีไวกรณ์ก็ไม่เหมือนกัน แม้แต่คนท้องถิ่นเดียวกัน บรรพบุรุษเขาก็อาจจะพูดไม่เหมือนเขาก็มี เวลาผมได้ไปดูหนังเมื่อ 60 กว่าปีก่อน ก็รู้สึก อ้อเมื่อก่อนเขาพูดไม่เหมือนสมัยนี้เนอะ เพราะฉะนั้น สรุปง่าย ๆ คือ ภาษาอังกฤษนั้นมีการแปรผันตามกาลเวลา และสถานที่ จริง ๆ แล้วทุกภาษามีลักษณะนี้ทั้งสิ้น แต่ภาษาอังกฤษมีมากกว่าเพราะเป็นภาษาสากล

เมื่อรู้ดังนี้แล้ว ก็ขอให้ระวัง ทำหัวใจให้เปิดกว้างไว้หน่อย ว่าสิ่งที่ครูสอน หรือที่ผู้รู้ทั้งหลายสอน (รวมทั้งผมด้วย) แม้แต่ฝรั่งก็ตาม บางอย่างจริง แต่อาจจะไม่จริงเสมอไป บางอย่างอาจเป็นสิ่งที่คน 90% ในโลกเขาใช้กัน แต่บางอย่างก็อาจเป็นเพียงสิ่งที่คน 10% ในโลกใช้กัน คนสอนบางทีเขาก็ไม่บอกครับ หรือบางทีเขาก็ไม่รู้ด้วยซ๊ำ บางทีผมก็มารู้ทีหลังว่า สิ่งที่สอนไปบางอย่างเป็นเฉพาะแบบอเมริกันใช้กัน ก็โชคดีอาศัยว่าข้อมูลอยู่ในเวบ ไปแก้ไขเมื่อไรก็ได้ ผมเห็นมาหลายครั้งครับ บางทีเปิดหนังสือที่ร้านหนังสือไทยเจอแล้วก็ตกใจ สอนสำนวนอะไรประหลาด ๆ หรือ สอนกฏไวยกรณ์ที่ไม่จริงเสมอไป เคยเห็นฝรั่งอังกฤษที่เคร็งภาษาก็ตลกอีก บางทีบอกว่าต้องใช้อย่างนี้เท่านั้น อีกอย่างหนึ่งใช้ไม่ได้ อ้าว แต่ถ้าแบบที่ผิดเขาใช้กันทั่วไป แล้วคนรู้เรื่องตรงกัน แล้วจะเรียกว่า ผิดได้อย่างไร ฝรั่งอย่างนี้ คือฝรั่งที่ยังหลงอยู่ครับว่า ภาษาอังกฤษคือภาษาของเขา ซึ่งเป็นเรื่องในประวัติศาสตร์ครับ สำหรับปัจจุบันไม่มีของใครทั้งนั้น การใช้ผิด คือ การใช้แล้วคนไม่เข้าใจ หรือเข้าใจผิด การพูดผิด หรือพูดไม่ชัด คือ การพูดแล้วคนฟังไม่รู้เรื่อง แม้แต่การพูดมีสำเนียง ปัจจุบัน คนหัวทันสมัยเขาก็ไม่ถือว่า เป็นการพูดไม่ชัดนะครับ

ดังนั้น เวลาเรียนภาษาอังกฤษเราควรต้องรู้พื้นฐานของคนสอนนะครับ จะได้รู้ว่าอาจมีการลำเอียงแนวไหนอยู่ สำหรับเพจนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการสอนภาษาอังกฤษแบบอเมริกันนะครับ แต่เนื่องจาก ผมอยู่อเมริกามานาน กว่า 90 % ของภาษาอังกฤษที่ใช้และได้ยินในชีวิตประจำวันก็เป็นแบบอเมริกัน ดังนั้น บางทีก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ถ้าใครสงสังว่าอาจจะเขียนผิดอะไรก็ท้วงติงได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ

Ahead or Behind

มาดูสำนวนเกี่ยวกับการแข่งขันหน่อย ahead แปลว่า ล่วงหน้า หรือนำหน้า เช่น ถ้าแข่งขันกันแล้วคนหนึ่งนำหน้าไป ก็เรียก Someone is ahead. ในทางตรงข้าม ถ้าใครตามหลังอยู่ก็เรียกว่า behind เช่น

  • He is ahead by 1 point. เขานำอยู่หนึ่งแต้ม ความหมายเดียวกับ He is leading by 1 point.
Copyright © 2013-2025 betterenglishforthai.net