would, could, should, etc ตอนที่ 5 ต้อง

ตอนที่แล้วเป็นเรื่องการทำนายอนาคต ถ้าใครสังเกตจะเห็นว่าผมไม่ได้รวม must กับ have to เข้าไปในกลุ่มด้วย เวลาคนไทยเราทำนายอนาคต บางทีก็ฟันธงโดยใช้คำว่าต้อง เช่น เราอาจพูดว่า “พรุ่งนี้ฝนต้องตกแน่นอน”   ซึ่งก็ควรแปลว่า It will definitely rain tomorrow.  ถ้าเราไปพูดว่า  It has to (หรือ must) rain tomorrow.  มันมีความหมายเหมือนกับว่าเราอยากให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น  เมื่อมาใช้กับเหตุการณ์ที่คนเราควบคุมไม่ได้ เช่น ปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างนี้ โดยมากก็ควรมีสถานการณ์ประกอบว่าทำไมถึงพูดอย่างนั้น เช่น  อาจพูดว่า It has to rain tomorrow for our plant to survive.  ฝนต้องตกพรุ่งนี้เพื่อว่าต้นไม้เราจะอยู่รอดได้  (คนพูดอาจจะไม่ได้อยู่บ้านหลายวัน แล้วก็ไม่มีใครรดน้ำต้นไม้)

ถ้าเป็นการคาดคะเนสถานการณ์ปัจจุบัน คราวนี้ก็ใช้ must ได้เหมือนแบบไทย ๆ ครับ   may, might, can, could อะไรต่าง ๆ ก็ยังใช้ได้อยู่เพื่อบ่งบอกถึงระดับความมั่นใจตามที่กล่าวมาในตอนที่แล้ว  รูปประโยคการคาดคะเนเหตุการณ์ปัจจุบัน หรือการทำนายอนาคตนั้นก็เหมือนกัน  (คำพวกนี้เป็นกริยาช่วยที่อาจมีความหมายเป็นปัจจุบัน หรืออนาคตก็ได้)  ถ้าเราต้องการเน้นว่าเกิดขึ้นอยู่ ก็ใช้เป็นปัจจุบันกาลแบบต่อเนื่อง (continuous tense) ก็ได้ เช่น

  • It must be raining badly right now.  “ฝนต้องกำลังตกอยู่อย่างหนักแน่เลย”  ก็เป็นการคาดการณ์ในปัจจุบัน คือ คนพูดอาจอยู่ในตึก ไม่เห็นฝน แต่ได้ยินเสียง
  • He must be crazy to do like that.   “หมอนี่ต้องบ้าแน่ ๆ ที่ทำอย่างนั้น”
  • They did not invite you to the party?  They must not like you.  “เขาไม่เชิญคุณไปงานเลี้ยงหรือ เขาต้องไม่ชอบคุณแน่เลย”  คือ คนอื่น ๆ อาจได้เชิญไปกันหมด

เมื่อคำว่า must หรือ have to ถ้าใช้กับเหตุการณ์ในอนาคต ก็มักจะสื่อถึงความต้องการ หรือความตั้งใจของผู้พูด  และสองคำนี้ให้ความรู้สึกแตกต่างกันเวลาใช้   must ให้ความรู้สึกที่แรงกว่าถึงความต้องการของผู้พูด หรือความมุ่งมั่นของผู้พูด  ในขณะที่ have to ให้ความรู้สึกในทำนองว่าเป็นความจำเป็นของสถานการณ์  ดังนั้น must มีความแข็งมากกว่า  ดังที่ได้กล่าวไปในตอนที่แล้วครั้งหนึ่ง เรื่องการสั่ง หรือให้คำแนะนำคนอื่นที่ว่า ถ้าเราบอกว่า You must … มันฟังดูเหมือนไปสั่งเขา ถ้าเป็นกฎระเบียบก็ฟังดูเข้มงวดกว่า  และถ้าใช้ You need to … หรือ You have to … ก็จะฟังอ่อนลง เหมือนเป็นการถูกบังคับด้วยสถานการณ์มากกว่า ตอนนี้ลองมาดูเวลาประธานเป็นตัวอื่นกันบ้าง

  • I must do better next year.   “ฉันต้องทำให้ดีกว่านี้ปีหน้า”  แสดงถึงความตั้งใจมั่น
  • I have to do better next year.   หรือ I’ll have to do better next year.  ก็ยังแสดงถึงความตั้งใจอยู่ แต่อ่อนลงกว่าแบบแรกหน่อย
  • These tragedies must end.  And to end them, we must change.  “โศกนาฏกรรมลักษณะนี้ต้องหมดไป และจะหมดไปได้ เราก็จะต้องเปลี่ยน”  ประโยคนี้คุณโอบามาเพิ่งพูดไปเมื่อไม่นานนี้ เกี่ยวกับเหตุการณ์การสังหารเด็กในโรงเรียน  ถ้าใช้ have to ก็จะฟังไม่หนักแน่นเท่า
  • The show must go on.  “โชว์นี้ หรือ งานนี้ต้องดำเนินต่อไป”  ประโยคนี้เป็นสำนวนมาจากวงการบันเทิง  เวลาถ่ายทำหนัง หรือแสดงละครเวที แล้วเกิดอุปสรรคอะไร เขาก็บอกว่า เลิกไม่ได้ ทำมาแล้วต้องทำต่อให้เสร็จ  ปัจจุบันก็นำมาใช้กับสถานการณ์อื่นได้เหมือนกัน เช่น พนักงานลาออกจากกลุ่ม คนที่เหลืออยู่ก็ต้องดำเนินการต่อไป ก็พูดประโยคนี้ปลุกใจกันได้เช่นกัน
  • I have to go now.  “ฉันต้องไปล่ะ”  ฟังดูเป็นเหตุการณ์ปกติกว่า  I must go now. ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องสำคัญ

อีกคำหนึ่งที่แปลว่า “ต้อง” ได้เหมือนกันคล้ายกับ must  ก็คือ shall แต่เป็นในทำนองความหมายกึ่ง ๆ ระหว่าง must กับ will  คือ กึ่ง ๆ ระหว่างการสั่ง หรือการตั้งใจ กับการดลบันดาล  ภาษาไทยบางทีก็ใช้คำว่า “จง” ในสถานการณ์อย่างนี้   คำว่า shall มีใช้ในสถานการณ์ที่จำกัดหน่อย เพราะฉะนั้น ระวังอย่าไปพูดพร่ำเพรื่อ  (ดูข้อยกเว้นข้างล่าง)  ถ้าใช้ถูกต้องก็ฟังดูขลัง และเท่  แต่ถ้าไม่ถูกกาละเทศะก็จะฟังดูประหลาด หรือโบราณ ๆ หน่อย  โดยทั่วไปแล้วใช้ must แทนจะปลอดภัยกว่า  ลองดูตังอย่าง

  • I/We shall do better next year. ก็พอจะใช้ได้  เหมือนเป็นการสั่งตัวเอง
  • We shall not kill or hurt others.  “ท่านจงไม่ฆ่า หรือทำร้ายผู้อื่น”  นี่ก็มาจากศีลห้าข้อที่หนึ่งนะครับ  อันนี้ก็ใช้ shall เหมาะสมกว่า must  เพราะเป็นคำสั่งสอน หรือข้อบังคับทางศาสนา
  • They shall be punished according to the law.  “เขาควรต้องถูกลงโทษตามกฏหมาย”

มีข้อยกเว้นสำหรับ  Shall ที่ใช้บ่อยมาก ก็คือ  Shall we … ?  มีความหมายเป็นการชวน เช่น  Shall we go today?  “เราไปวันนี้กันเลยไหม”   ไม่ได้มีความหมายทำนองบังคับ แต่อย่างใด

Updated: 15 มีนาคม 2014

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

four × three =

Copyright © 2013-2024 betterenglishforthai.net