ตอนก่อนเรื่อง crazy ผมอธิบายตกไปความหมายหนึ่งที่ใช้บ่อย คือ แปลว่า ชอบแบบคลั่งไคล้ ก็ได้ เช่น
- He is crazy about you. เขาคลั่งไคล้คุณเอามาก ๆ เลย (คือ ชอบ หรือ รักแบบไม่ลืมหู ลืมตา)
- He is crazy about cars.
ตอนก่อนเรื่อง crazy ผมอธิบายตกไปความหมายหนึ่งที่ใช้บ่อย คือ แปลว่า ชอบแบบคลั่งไคล้ ก็ได้ เช่น
คำว่า บ้า ในภาษาไทยก็มีหลายคำใกล้เคียงกันในภาษาอังกฤษ ตอนนี้มาดูบางคำที่ใช้บ่อย ๆ คำแรก คือ silly มีใช้อยู่ในสองสถานการณ์ คือ
สองคำนี้ความหมายคล้าย ๆ กัน แต่ไม่เหมือนกันทีเดียว เอาเรื่องไวยกรณ์ก่อน daydream เป็นคำนามก็ได้ คำกริยาก็ได้ แปลว่า ฝันกลางวัน เนื่องจากเป็นคำกริยาก็เลยมีรูปศัพท์ได้มากมาย เช่น daydreamed รูปกริยาช่องสอง daydreaming การฝันกลางวัน หรือ daydreamer แปลว่า นักฝันกลางวัน ส่วน wishful thinking นั้น เป็นคำนามเท่านั้น แปลว่า การคิดโดยมองแต่แง่ดีมากเกินไป ไม่ใช้เป็นคำกริยา ยกเว้น wishful thinker ก็พอมีใช้บ้าง
ถ้าเห็นใครคิดเหม่อลอย เรียกแล้วไม่ได้ยิน อย่างนี้ต้องเรียกว่า daydreaming ถ้าใครคิดฝันหวานว่าจะทำโน่นทำนี่ ได้โน่นได้นี่ อันนี้ก็จะเรียกว่า daydreaming ก็ได้ หรือเบาหน่อย ก็เรียกว่า wishful thinking ก็ได้ ส่วนถ้าจะอธิบายว่าใครมีความหลงผิด คิดในแง่ดีเกินไป ไม่มองความเป็นจริง ก็ควรใช้ว่า wishful thinking ไม่ใช่ daydreaming เช่น
job กับ work เมื่อเป็นคำนาม แปลเหมือนกันว่า งาน บางสถานการณ์ก็ใช้แทนกันได้ แต่บางสถานการณ์ก็ไม่ได้ work เป็นนามนับไม่ได้ แต่ job นับได้ ตัวอย่างหนี่งที่ใช้แทนกันได้ คือ เรื่องเกี่ยวกับผลงาน หรืออะไรที่ทำอยู่ สังเกตการใช้ a ข้างหน้า job ด้วยนะครับ เช่น
อีกคำหนึ่งที่คล้ายกับ naive คือ innocent ออกเสียงเน้นพยางค์แรกว่า -[อิน]-เนอะ-สึน- แต่ความหมายไม่เหมือนกันทีเดียว naive ใช้กับการไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบอ่อนประสบการณ์ ดังที่ได้กล่าวในตอนที่แล้ว แต่ innocent เป็นอาการไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบบริสุทธิ์ ที่ผมนึกออกก็ใช้ในสามสถานการณ์ คือ 1) เด็ก ๆ บริสุทธิ์ไม่รู้ประสีประสา ไม่รู้ผิดรู้ถูก 2) คนบริสุทธิ์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด 3) คนไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเหตุการณ์ แต่โดนลูกหลง ตัวอย่างเช่น
naive อ่านว่า -ไน-[อีฯ]- ก็แปลว่า อ่อนประสบการณ์ ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่ทันคน ก็ความหมายคล้ายกับ foolish แต่เป็นเชิงลบน้อยกว่า คือ ไม่ถึงกับว่า โง่ foolish จะออกไปในแนวด่าว่า โง่ ไม่รู้เรื่อง โดนคนอื่นเขาหลอกแล้วยังไม่รู้ตัว แต่ naive นี้เป็นแค่อาการอ่อนโลก เฉย ๆ ไม่รู้เคล็ดลับ หรือกลไกสังคมที่คนอื่น ๆ เขารู้กัน เช่น เราเข้าไปทำงานบริษัทใหม่ ๆ อาจจะมีวัฒนธรรม หรือกฏที่ไม่เป็นทางการ ที่คนอื่นเขารู้กัน ทำกัน แต่เราไม่รู้ และไม่ได้สังเกต อย่างนี้ก็เรียกว่า naive เช่น
foolish (-[ฟูล]-ลิฉ-) กับ stupid (-สะ-[ตยู]-ปิด-) ก็แปลเหมือนกันว่า โง่ แต่ความหมายไม่เหมือนกันซะทีเดียว foolish เป็นโง่ทำนองอ่อนประสบการณ์ ไม่รู้เรื่องรู้ราว ส่วน stupid นั้น เป็นโง่แบบไม่ใช้สมอง ไม่มีปัญญา ทั้งสองคำจะใช้อธิบายการกระทำ หรืออธิบายลักษณะคนก็ได้ ดูตัวอย่างเช่น