ศัพท์และสำนวน

Shoot oneself in the foot

เขียนถึง self inflicted ก็ทำให้นีกถึงสำนวนนี้ ถ้าเราไปพูดกับใครว่า You are shooting yourself in the foot. แปลตามตัวก็คือ คุณยิงปืนไปโดนเท้าตัวเอง แต่ในที่นี้ก็หมายถึงว่า สิ่งที่เขาทำอยู่นี่มันทำร้ายตัวเองโดยไม่ตั้งใจนะ หรือทำให้เกิดผลเสียโดยไม่จำเป็น โดยทั่วไปก็มีนัยว่า เขาไม่รู้ตัวว่าเป็นการทำร้ายตัวเองอยู่ หรือ เป็นความเห็นส่วนตัวของเรา ไม่สนิทก็อย่าไปว่าใครครับ เช่น ผมเคยเห็นเพื่อนซื้อซอฟท์แวร์ไม่ได้เรื่องมาใช้ ทำให้งานมั้นยากขึ้น แทนที่จะใช้ spreadsheet หรือ ทำเองง่าย ๆ ผมก็พูดอย่างนี้กับเขา
ดูตัวอย่างเพิ่มเติมเช่น

  • Dang is shooting himself in the foot by bragging about stuff he doesn’t know.

Self-Inflicted

เอาข่าวเก่ามาเล่านะครับ บางคนก็วิจารณ์ว่า การที่คนอังกฤษโหวตออกจาก EU แล้วทำค่าเงินตัวเองตกกระหน่ำ และมีแนวโน้มที่จะทำเศรษฐกิจตัวเองตกต่ำในอนาคต เป็น self inflicted wound หรือ self inflicted damage แปลว่า แผล หรือ ความเสียหายที่เกิดจากตัวเอง ไม่ได้เกิดจากคนอื่น หรือปัจจัยภายนอก

คำว่า inflicted (-อิน-[ฟลิก]-ติด-) ก็มาจากคำกริยา inflict ความหมายคล้ายกับคำว่า impose หรือ cause ที่แปลว่า ทำให้เกิดขึ้น แต่ inflict ใช้กับความเสียหาย หรือ ความเจ็บปวด เช่น

  • You inflicted the pain on me.

ทนทาน

ขอโทษหายไปนานครับ เผอิญมีงานหนักเข้ามา จนไม่มีแรงเหลือ ผมดูวันที่ที่เขียนครั้งสุดท้ายก็หนึ่งเดือนพอดี เลยตกใจ วันนี้ขอเขียนเรื่องความอดทนต่อ เอาเป็นแบบทนทาน แบบล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ บาดเจ็บแล้วก็หายได้ หรือ ฆ่าเท่าไรก็ไม่ตาย ประมาณนั้น ฝรั่งเรียก ลักษณะแบบนี้ว่า resilient เน้นพยางค์ที่สองนะครับ อ่านว่า -รี-[ซิล]-เลียน- ถ้าใช้เป็นคำนามก็ resiliency เติม ซี่ ไปอีกพยางค์นึง

endurance ที่เคยเล่าให้ฟังไป เป็นความทนทานแบบอึด อยู่ได้นาน หรือใช้เท่าไรก็ไม่พัง แต่ resiliency เป็นความทนทานแบบสบบุกสมบัน พังแล้วก็กอบกู้ตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ คล้าย ๆ แต่ไม่เหมือนกันทีเดียวนะครับ คำว่า tough (ทัฟ) ก็จะเป็นความหมายกลาง ๆ ใช้แทนได้กับทั้งสองคำ

มาดูตัวอย่างเช่น

  • He is a resilient person.

อดทนหน่อย

อดทนหน่อย แบบฝรั่งก็มีประมาณสองแบบ แบบแรกก็เหมือนกับว่า อดทนหน่อย แบบใจเย็น ๆ ก็พูดได้ว่า

  • Be patient อันนี้กึ่ง ๆ ให้คำแนะนำ กับให้กำลังใจ
  • Take it easy อันนี้ก็บอกว่า ใจเย็น ๆ อย่าคิดมาก บางคนสนิทกัน ก็ใช้พูดเวลาจากกันแทน Bye ก็มี เหมือนเราพูดทับศัพท์ว่า อย่าซีเรียส อย่างจริงจังเกินไป

แต่ถ้าคนอยู่ในภาวะเป็นทนทุกข์อยู่ เราต้องใช้สำนวนให้กำลังใจ เช่น

  • Hang in there นี่ตรงกับไทย ว่าอดทนหน่อย ซึ่งก็มักจะพูดต่อว่า เดี๋ยวจะหายแล้ว เดี๋ยวจะดีขึ้นล้ว หรือ เดี๋ยวจะมีคนมาช่วยแล้ว อะไรประมาณนั้น ใครชอบดูหนังคงได้ยินบ่อย ๆ ใช้ได้ทั่วไป เช่น คนกำลังอยู่ในภาวะขับขันร้ายแรง เช่น จะตกหน้าผา ถูกยิงกำลังจะตาย หรือ อยู่ในภาวะลำบากทั่วไปที่ไม่ร้ายแรงก็ได้ เช่น เด็กเรียนหนังสือหนักเตรียมสอบ หรือ กำลังป่วยนอนซมอยู่

เราจะพูดให้กำลังแบบอื่นก็ได้ เช่น

  • Be strong.

ทนไม่ไหวแล้ว

พูดถึงศัพท์ความอดทนแล้ว มาดูภาษาพูดเกี่ยวกับความอดทนหน่อย ซึ่งรู้ศัทพ์แล้วก็ไม่จำเป็นว่าจะพูดถูกครับ เราต้องรู้ด้วยว่าเขาพูดกันอย่างไร อันแรกคือ ฉันทนไม่ไหวแล้ว

  • I can’t stand it. นี่ก็ใช้กันโดยทั่วไป ทั้งทนแบบเล็ก ๆ ถึงใหญ่ ๆ ถ้าจะให้ชัดเจนว่า ทนมานานแล้วแต่ทนต่อไปไม่ไหวก็พูดว่า I can’t stand it any more.

Patience, Tolerance, Endurance

ความอดทนของฝรั่งมีสามระดับครับ มาเรียงกันจากระดับต่ำไปสูง

1) Patience ([เพ]-เฉียนส) มีคำคุณศัพท์ว่า patient เป็นระดับต่ำสุด คือ การอดกลั้น ทนรอ ทนหงุดหงิด คนที่มี patience ก็คือ คนที่ใจเย็น ไม่หงุดหงิด ไม่โกรธง่าย เช่น

  • Be patient.

เป็นร้อย ๆ พัน ๆ

มาดูเรื่องการพูดตัวเลขร้อย พันกันต่อ

  • คนเป็นร้อย ๆ hundreds of people
  • คนเป็นพัน ๆ thousands of people
  • คนเป็นหมื่น ๆ tens of thousands of people
  • คนเป็นแสน ๆ hundreds of thousands of people
  • คนเป็นล้าน ๆ millions of people
Copyright © 2013-2024 betterenglishforthai.net