พูดถึงศัพท์ความอดทนแล้ว มาดูภาษาพูดเกี่ยวกับความอดทนหน่อย ซึ่งรู้ศัทพ์แล้วก็ไม่จำเป็นว่าจะพูดถูกครับ เราต้องรู้ด้วยว่าเขาพูดกันอย่างไร อันแรกคือ ฉันทนไม่ไหวแล้ว
- I can’t stand it. นี่ก็ใช้กันโดยทั่วไป ทั้งทนแบบเล็ก ๆ ถึงใหญ่ ๆ ถ้าจะให้ชัดเจนว่า ทนมานานแล้วแต่ทนต่อไปไม่ไหวก็พูดว่า I can’t stand it any more. หรือ I can no longer stand it.
ไม่จำเป็นต้องเป็น it นะครับ จะเน้นถึงสิ่งที่เราทนไม่ไหวก็ได้ ก็บอกลงไป เป็นนามหรือ verb+ing เช่น
- I can’t stand this.
- I can’t stand his behavior. ฉันทนกับพฤติกรรมของเขาไม่ได้
- I can’t stand not being with you. ฉันทนอยู่โดยไม่มีเธอไม่ได้
- I can’t stand politicians. ฉันทนพวกนักการเมืองไม่ได้
- I can’t stand the fact that they cheated us. ฉันทนไม่ได้ที่พวกเขามาโกงเรา หรือ หลอกเรา ใช้ the fact that หรือ that เฉย ๆ ก็ได้
สังเกตว่า สำนวนนี้มักจะใช้เป็นรูปปฎิเสธกับ can’t หรือ cannot ประโยคคำถามก็พอจะใช้ได้ แต่ไม่ค่อยเห็นมีใครใช้เป็นประโยคบอกเล่า อีกสำนวนหนึ่งที่แปลว่า ทน ก็คือ “to put up with” อันนี้ใช้เป็นบอกเล่าก็ได้ เช่น
- I can’t put up with this. ฉันทนไอ้นี่ไม่ได้
- We have put up with this for so long. พวกเราทนมานานแล้ว
- Why should we have to put up with this? ทำไมเราต้องมาทนกับมันด้วย
บางคนถามว่า อ้าวแล้ว patience, tolerance, endurance ที่พูดถึงในตอนก่อนหายไปไหน ก็ยังใช้ได้ครับ tolerance กับ endurance มีรูปกริยาซึ่งก็สามารถพูดใช้ได้ว่า I can’t tolerate this (any more). หรือ I can’t endure this (any more). แต่ stand กับ put up with เป็นสำนวนพูดที่คนพูดติดปากกว่า ความหมายหลวม ๆ กว่า
สำหรับ patience ซึ่งไม่มีรูปกริยา ก็นิยมใช้ในสำนวนว่า ฉันหมดความอดทนแล้ว เช่น
- I’m losing my patience. หรือ I’m running out of patience. ฉันกำลังจะหมดความอดทนแล้ว ก็คือ ฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะ
- พูดอีกแบบหนึ่งก็ได้ว่า My patience is running out. หรือ running low หรือ running thin ก็ได้
- I can’t be patient with these people. หรือ I don’t have patience with these people. ก็ใช้ได้ครับ แต่เห็นไหมว่า มันค่อนข้างยาว พูดแบบตลาดเร็ว ๆ ก็เลยกลายเป็น I can’t stand these people. หรือ I can’t put up with these people.
คราวหน้ามาดูสำนวนพูด “อดทนหน่อย” ว่าจะเขียนในตอนเดียวกัน แต่ชักยาว กลัวผู้อ่านจะทนอ่านไม่ไหว