ผมอ่านข่าวเกี่ยวกับสงครามในซีเรียอันนี้ “The future looks dark for Syrians — both metaphorically and literally” ก็เห็นศัพท์ที่น่าเอามาเล่าสู่กันฟัง สองคำเทียบกันอยู่พอเหมาะ เป็นศัพท์ที่ผมเห็นบ่อยครับ แต่คนไทยอาจจะไม่ค่อยได้ใช้
คำแรกคือ metaphorically (-[เมต]-ตะ-[[ฟอ]]-ริก-ลี-) ซึ่งมาจากคำนามที่เห็นบ่อยกว่า คือคำว่า metaphor (-[[เมต]]-ตะ-[ฟอร]-) แปลว่า สัญลักษณ์แบบเป็นตัวแทน หรือแบบอุปมา ตัวอย่างเช่น เหมือนเราพูดว่า ยุ่งจะตายอยู่แล้ว หรือ กลุ้มใจหัวจะแตก ไอ้คำว่า จะตาย หรือ หัวแตก ก็เป็น metaphor หรือ เป็นการพูดแบบ metaphorically คือเป็นการพูดแบบเชิญเปรียบเทียบเฉย ๆ ไม่ได้มีความหมายตามตัวอักษร อีกคำที่มีความหมายคล้าย ๆ กัน คือ analogy อันนี้แปลเหมือนคำไทยว่า อุปมาอุปมัย ก็มักเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า metaphor หน่อย ดูตัวอย่างเช่น
- When I said my head was going to explode (-เอ็กส-[โพลด]-) , it was just a metaphor. ตอนฉันบอกเธอว่าหัวฉันจะแตกน่ะ ฉันแค่เปรียบเทียบเฉย ๆ
- Do you think reincarnation (-ริ-[อิน]-คา-[[เน]]-ฉั่น-) is real or just a metaphor? คุณคิดว่าการไปเกิดใหม่นี้มันเรื่องจริง หรือเป็นแค่สัญลักษณ์ (อุบายสอนให้คนทำดี)
คำที่สองที่ความหมายตรงข้ามกัน คือ literally (-[ลิด]-เทอะ-เริล-ลี- หรือพูดเร็ว ๆ เป็น -[ลิด]-เทรอ-ลี-) คำนี้ไม่มีคำนามครับ มีคำคุณศัพท์ว่า literal (-[ลิด]-เทอะ-เริล-) แปลว่า มีความหมายตามตัวอักษร ถ้าเทียบกับไทยก็เหมือนบอกว่า จริง ๆ นะ คำภาษาอังกฤษที่ใกล้เคียงก็ คือ really ที่นี้เวลาเขาใช้ในภาษา literally บางทีก็ใช้พูดกันพร่ำเพรื่อ จนบางทีก็ไม่ได้มีความหมายว่า จริง ๆ ตามตัวอักษร แต่แค่เป็นการเน้นเพิ่มอารมณ์ของผู้พูด ตัวอย่างเช่น
- My head would literally be exploding. หัวฉันมันจะระเบิด ก็มีความหมายได้สองทางแล้วแต่สถานการณ์ ถ้าสมมติคนพูดกำลังอธิบายปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ ก็หมายถึง หัวมันจะระเบิดจริง ๆ แต่ถ้าเป็นการพูดทั่วไป ก็เป็นการพูดเน้นสร้างอารมณ์เฉย ๆ
- This does not literally exist. อันนี้มันไม่มีจริง (ตามที่ได้ยิน หรือได้อ่านมา) อาจจะมีปลอม ๆ หรือแค่เป็นเชิงสัญลักษณ์
ก็กลับมาดูตัวอย่างจากประโยคในข่าวข้างต้นนะครับ เขาเขียนว่า อนาคตของซีเรียนั้นมืดมน ทั้งทาง metaphorically และ ทาง literally ถ้าคุณคลิกไปดูที่ข่าวนั้น หรือดูที่ผมโพสข้างล่างนี้ ก็จะเห็นรูปภาพถ่ายดาวเทียมตอนกลางคืนที่เขาถ่ายไว้สี่ปีที่ผ่านมาเทียบกัน เห็นได้ชัดว่า จากปี 2011 ถึง 2015 แสงไฟจากเมือง และบ้านคน ภายในกรอบประเทศซีเรียนั้นหายวูปไปอย่างน่าใจหาย ซึ่งก็เกิดจากบ้านเมืองถูกทำลาย คนตาย และคนอพยพหนีนะครับ คนเขียนข่าวก็เลยทำสำนวนว่า มืดมนในที่นี้ ถูกทั้งสองความหมาย คือ ทั้งเชิงตามตัวอักษร และ เชิงการเปรียบเทียบ (ตรงกับคนไทยเราพูดว่าอนาคตมืดมน)
ท้ายนี้ก็ขออวยพรให้ผู้ประสบภัย หรือกำลังทนทุกข็ทรมานทั้งหลายว่า
May those who are in darkness see the light again soon.