บทที่แล้วเราดูประโยคย่อยที่ใช้สรรพนามเชื่อม พวก that, what, who, where, ฯลฯ ในบทนี้ ก็มาดูประโยคย่อยที่เชื่อมด้วยคำสันธาน หรือ conjunction ดูบ้าง ซึ่งสามารถเชื่อมสองประโยคที่ค่อนข้างสมบูรณ์เข้าด้วยกัน ไม่ต้องใช้สรรพนามเข้ามาช่วย
ประโยคย่อยที่ขยายการกระทำ
ประโยคย่อยที่ขยายการกระทำของประโยคหลัก หรือใช้เหมือนเป็น adverb ที่ใช้อธิบายว่า ทำเมื่อไร ทำอย่างไร และทำทำไม ลองเทียบประโยคสองประโยคนี้ดู ตัวอย่างเช่น
- I like to stay home on Sundays. ฉันชอบอยู่บ้านวันอาทิตย์
- I like to stay home when it is raining. ฉันชอบอยู่บ้านเวลาฝนตก it is raining ในที่นี้ ก็เป็นประโยคสมบูรณ์ในตัวเอง และก็มีคำเชื่อม when เพื่อเอามาขยายประโยคหลัก
การใช้ประโยคขยายการกระทำนั้น สามารถย่อได้ โดยเฉพาะเมื่อประธานของทั้งสองประโยคเป็นตัวเดียวกัน เช่น
- I like to stay home when I feel sick. ฉันชอบอยู่บ้านเวลารู้สึกไม่สบาย
- I like to stay home when feeling sick. แปลเหมือนกันนะครับ แต่ใช้ย่อ ในที่นี้ feeling sick เป็นแค่วลี ก็เหมือนกับ when ทำหน้าที่คล้ายคำบุพบทไป
เราจะวางประโยคที่ขยายไว้ข้างหน้าก็ได้ ถ้าต้องการเน้น โดยมากก็ใช้ คอมม่าเป็นตัวกั้น เช่น
- When feeling sick, I like to stay home.
- When it is raining, I like to stay home.
คำสันธานที่ใช้อธิบายว่า ทำเมื่อไร ก็มีอีกมากมายนะครับ เช่น after, before, while (ในขณะที่), once (ทันทีที่), as soon as, until, till, when, since, because, และอื่น ๆ มีวิธีใช้เหมือนกับ when ข้างต้น ลองดูตัวอย่างในประโยคเช่น
- Let’s go as soon as he comes. เดี๋ยวไปเลยนะตอนเขามาถึง (Let’s คือ Let us)
- After graduating from college, he joined the army. หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยเขาก็เข้าเป็นทหาร ในที่นี้ก็เหมือน After he graduated from college
- He has been doing that since the company was founded. เขาทำอันนี้มาตั้งแต่บริษัทได้ก่อตั้งมา
- He could not find a job after the company went bankrupt. เขาหางานทำไม่ได้หลังจากบริษัทล้มละลายไป
- They kept postponing this until it is too late. พวกเขาคอยเลื่อนเรื่องนี้อยู่เรื่อยจนกระทั่งสายไปแล้ว
นอกจากใช้ขยายอธิบายว่าทำเมื่อไรแล้ว คำสันธานบางตัวก็ใช้ขยายเพื่ออธิบายว่าเงื่อนไข หรือเหตุผล วิธีใช้ก็เหมือนกัน เช่น
- I will go if you come. ฉันจะไปถ้าคุณมา เช่นเดียวกัน เอาขึ้นหน้าก็ใช้คอมม่า If you come, I will go.
- I cannot do this because I am sick.. ฉันทำไม่ได้เพราะฉันป่วย
- Since it is raining, let’s not go out. ฝนกำลังตกอยู่ อย่าออกไปข้างนอกเลย Since ในที่นี้ ความหมายคล้าย because
ประโยคย่อยที่ใจความเท่าเทียมกัน
ประโยคย่อยที่มีใจความเท่าเทียมกัน ก็มาเชื่อมกันได้โดยคำสันธาน (conjunction) เช่น and, but, so, though, although, และ อื่น ๆ ประโยคที่มารวมกันแบบนี้ (Compound Sentences) ก็ไม่เรียกว่า มีประโยคหลัก หรือประโยคประกอบ เพราะใจความค่อนข้างเท่าเทียมกัน เช่น
- He likes red and I like blue. เขาชอบสีแดงและฉันชอบสีน้ำเงิน
- He likes red while I like blue. while ในที่นี้ความหมายคล้าย and
- He likes red but I don’t. เขาชอบสีแดงแต่ฉันไม่ชอบ
- My car is broken so I cannot come. รถฉันเสียฉันจึงมาไม่ได้
- Although his car had a problem, he still won the race. ถึงแม้ว่ารถเขาจะมีปัญหา แต่เขาก็ยังแข่งชนะ
เราก็ใส่คอมม่าคั้นก่อนคำเชื่อมได้นะครับ เพื่อเน้นแยกใจความออกจากกันหน่อย ในประโยคตัวอย่างข้างต้นจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ เช่น He likes red, and I like blue. สำหรับประโยคที่ยาว หรือมีหลายประเด็น การใส่คอมม่า ก็จะมีความจำเป็นมากขึ้น เช่น
- My first car was old and did not run very well, but I loved it. รถคันแรกของฉันเก่าและก็วิ่งไม่ค่อยดีนัก แต่ฉันก็รักมัน ประโยคนี้มีสามประโยคย่อยเชื่อมกันอยู่ สองประโยคแรกใช้ประธานร่วมกัน คือ my first car ส่วนประโยคหลักสมควรใช้คอมม่านำอย่างยิ่ง ในภาษาไทยเรายังมักเว้นวรรคเลย
ถ้ามันชักยาวมาก ๆ หรือเราต้องการเน้นประโยคหลัง จะแยกออกมาเป็นอีกหนึ่งประโยคก็ยังได้ ในที่นี้ก็เป็น My first car was old and did not run very well. But I loved it. การขึ้นต้นประโยคด้วยคำสันธานนี้ บางคนก็ว่าไม่ถูก แต่หลายคนก็ใช้กัน บางครั้งเป็นการเพิ่มสีสันของใจความได้ แต่ก็ควรระวัง ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อเกินไป
คำวิเศษณ์ และวลีที่ใช้เชื่อมประโยค
นอกจากคำสันธานแล้ว ก็มีคำวิเศษณ์ adverb และวลีหลายวลีที่นิยมใช้เป็นตัวเชื่อมประโยค วิธีใช้ก็ค่อนข้างหลากหลาย อาจเชื่อมประโยคย่อยก็ได้ หรือขึ้นประโยคใหม่ก็ได้ บางตัววางไว้ข้างหลังประโยคก็ได้ ลองดูตัวอย่างคำเชื่อมที่ให้ความหมายแย้งคล้ายกับคำว่า but ได้แก่ however, nonetheless, nevertheless เป็นต้น
- His car has a problem, however he still won the race. รถเขาจะมีปัญหา แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังแข่งชนะ
- His car has a problem. However, he still won the race. ขึ้นประโยคใหม่ก็ได้
- His car has a problem; however, he still won the race. คั่นประโยคด้วยเซมิโคลอน (;) ก็ได้
- His car has a problem. He still won the race however. ใส่ข้างหลังประโยคก็ได้
โดยทั่วไปนั้น เซมิโคลอนสามารถเชื่อมประโยคได้โดยไม่ต้องมีคำเชื่อมก็ได้ ประโยคข้างต้นจะใช้ nonetheless หรือ nevertheless หรือ though แทน however ก็ได้ ความหมายใกล้เคียงกัน
ลองดูตัวอย่างของคำในความหมายอื่นบ้าง เช่น
- He won the race; moreover, he beat his previous record. เขาชนะการแข่งขัน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังทำลายสถิติตัวเองด้วย
- He won the race. In addition to that, he beat his previous record.
- He helped us in many ways, in fact, we could not have won without him. เขาช่วยเราหลาย ๆ ด้าน ว่าไปแล้วถ้าไม่มีเขาเราคงไม่ชนะหรอก
ลองศึกษาคำอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
» ไปบทถัดไป 13. รูปประโยคสมมติ หรือจินตนาการ » กลับไปที่ สารบัญ