12. เสียง th

เสียง th เป็นเสียงที่ไม่มีในภาษาไทยครับ และคนไทยมักไปเหมาเอาว่า เป็นเสียงเดียวกัน t หรือ -ท- ซึ่งไม่ถูกต้อง   มีคำที่ th ออกเสียงเป็น -ท- เหมือนกัน แต่เป็นคำเฉพาะที่อยู่ในวงจำกัด เช่น Thailand  Thomas -[ทอ]-มัส- Beethoven -[เบ]-โท-ฯัน-   ส่วนคำที่ทับศัพท์จากชื่อภาษาไทยไปเป็นภาษาอังกฤษทั้งหลาย เราไปบัญญัติเอาเองว่า “ท” เขียนเป็น t มั่ง th มั่ง  ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องไปใส่ตัว h เข้าไป เสียง “ท” นั้นตรงกับเสียง t อยู่แล้ว   ก็ไม่เป็นไรครับ เนื่องจาก เราใช้กันโดยทั่วไปแล้ว ก็ต้องตามน้ำกันไป  ถ้าเจอฝรั่งเขาออกเสียงผิด เราก็ให้ความรู้เขาไปหน่อยว่าคำไทยที่สะกดด้วย th ให้ออกเสียงเหมือนตัว t ให้หมด

 

เสียง th แบบแรง

มาดูวิธีออกเสียง th ที่ถูกต้องกัน  เสียง th นั้นมีทั้งแบบเสียงก้อง และเสียงไม่ก้อง  เขียนรูปเหมือนกัน แต่ตัวอ่าน phonetics ต่างกัน ลองไปตรวจสอบในพจนานุกรมส่วนตัวดูนะครับว่าเขาใช้สัญลักษณ์อะไร  เรามาดูแบบเสียงไม่ก้องกันก่อน ซึ่งผมขอแทนเสียงนี้ด้วยตัวสัญลักษณ์ -ธ- ในการเขียนคำอ่านโดยใช้อักขระไทย  วิธีออกเสียง -ธ-  ให้เริ่มต้นทำปากด้วยการเอาลิ้นแตะที่ปลายฟันบน เอาฟันบนและฟันล่างประกบลิ้นไว้หลวม ๆ  ให้ปลายลิ้นยื่นออกมาจากฟันสักเล็กน้อย ไม่เกินครึ่งเซนติเมตร  จากนั้นให้เปล่งเสียงออกมาโดยเผยอฟันบนขึ้นจากลิ้น และให้ลมผ่านออกมาระหว่างฟันบนกับลิ้น  ก็จะมีเสียงลมเสียงสีกับฟันบนผสมอยู่ด้วยนะครับ

เอ้าอธิบายให้ง่ายกว่านั้น เอาแบบไทย ๆ   อยากให้ลองผสมกับสระเออะดู เป็นเสียง -เธอะ- นะครับ ให้ลองทำปากเริ่มต้นเหมือนเดิม แล้ว

พยายามพูดคำว่า เตอะ  กับ เสอะ ออกมาเทียบกันดู  คือปกติเวลาเราพูดสองคำนี้ ลิ้นมันจะไม่แลบออกมาอย่างนั้น  แต่ขอให้ลองบังคับปากให้เป็นตัว -ธ- แล้วพูดดู  เสียง -เธอะ- มันก็จะใกล้เคียงอยู่ระหว่างสองคำนี้แหละครับ  คราวนี้ก็อยู่ที่ว่าใครชอบแบบไหน  ถ้าไม่ชอบเสียงซ่าเยอะก็พูดให้คล้ายเตอะ ถ้าอยากเอาเสียงซ่ามากหน่อยก็พูดให้คล้าย เสอะ  ผมว่าพอใช้ได้ทั้งสองแบบ  แต่ที่ดีที่สุด คือ ให้ก้ำกึ่งระหว่างสองแบบนี้  จะ 50-50 หรืออย่างไรก็แล้วแต่ชอบ  เอาให้เป็นธรรมชาติตามถนัด  ในส่วนตัว ผมชอบประมาณ 70-30 คือ ออกเป็นเสียง ต มากหน่อยสัก 70 %

รูปปากของเสียง th หรือ -ธ-

 ลองฟัง และพูดคำเหล่านี้ดูนะครับ  ฝึกให้ช่ำชองจนไม่ต้องคิดถึงว่ามันคล้าย ต หรือ ส  แต่เป็นเสียงใหม่ที่เรารู้จัก

  • thank  -แธงค-
  • think  -ธิงค-
  • thin  -ธิน-
  • thick  -ธิค-
  • three  -ธรี-
  • Thursday  -[เธิรซ]-เด-
  • thousand  -[เธ้า]-ซึน-
  • marathon  -[[แม]]-เระ-[ธอน]-
  • author  -[ออ]-เธอระ-
  • Athens  -[แอ]-เธนซ-

 

เสียง th แบบเบา

เสียง th แบบไม่ก้องนั้น บางทีคนก็เรียกว่าเป็น th แบบแรง (strong) เพราะมันมีเสียงลมเสียงสีฟันมากกว่าอีกแบบหนึ่ง  คราวนี้ลองมาดูเสียง th แบบเบา หรือแบบเสียงก้องกัน  ซึ่งง่ายกว่ามากครับ ให้ทำปากเหมือนเดิม แต่ออกเป็นเสียง ด ออกมา  ลองพูด เดอะ ดูแต่ให้ปากเริ่มต้มเหมือน -ธ- และไม่ต้องส่งเสียงลมเสียงสีกับฟันมากนัก  จะอธิบายอีกอย่างก็คือ ให้พูดเหมือนเดอะไทย ๆ นี่แหละ  แต่ตอนต้นให้แลบลิ้นออกมาจากฟันมากกว่าเดิมสักนิดหน่อย  ลองพูดเทียบกันดูนะครับ  คุณจะเห็นว่าสองแบบนี้คล้ายกันมาก  ผมว่ามากกว่า 80 เปอร์เซนต์  ดังนั้น ก็ขออนุญาติใช้ตัว -ด- เขียนแทนเสียงนี้  ถึงแม้มันไปซ้ำกับเสียงของตัว d เพราะคิดว่าหาตัวอื่นแทนไม่ได้ หรือไม่เหมาะสม  และก็เนื่องจากว่า เรามักออกเสียงนี้ผิดเป็น -ด- อยู่แล้ว  แต่เป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรงนัก  ก็เอาเป็นว่า ใครจะออกเสียงเป็น -ด- ธรรมดาก็ได้ ถือว่าเป็นอังกฤษแบบสำเนียงไทย แต่ถ้าใครจะเอาให้ชัดเหมือนฝรั่ง เวลาเห็น -ด- ที่มาจาก th ก็ให้แลบลิ้นเพิ่มออกมาอีกนิดหนึ่ง  ลองฟัง และพูดคำเหล่านี้ดูนะครับ  ลองพูดแบบ ด ธรรมดา และ ด แบบ th เทียบกันดู

  • the  -ดิ- หรือ -เดอะ-
  • then  -เดน-
  • they  -เดย-
  • this  -ดีส-
  • that  -แด็ท-
  • those  -โดซ-
  • mother  -[มา]-เดอะ-
  • brother  -[บรา]-เดอะ-
  • together  -ทู-[เก]-เดอะ-
  • either  ออกเสียงได้สองแบบ -[อี]-เดอะ- หรือ -[ไอ]-เดอะ-
  • neither  เช่นกัน ออกเสียงได้สองแบบ -[นี]-เดอะ- หรือ -[ไน]-เดอะ-

เสียง th ถึงแม้ว่ามีสองแบบ และเขียนเหมือนกัน  แต่ในทางปฏิบัติก็ไม่มีปัญหาในการแยะแยะเท่าไรนัก เนื่องจาก เสียงทั้งสองแบบฟังแตกต่างกันชัดเจนสำหรับคนไทย และ th ที่เป็นเสียง -ด- นั้นมีอยู่ในวงค่อนข้างจำกัด  ถ้าจะจำเอาก็คงไม่ยาก  ในกรณีที่เป็นเสียงพยัญชนะต้น ก็เป็นคำที่เราคุ้นเคย และใช้อยู่เป็นประจำ เช่น the, then, than, there, this, that, these, those, though, they, them, their, และ thus เป็นต้น  คำส่วนใหญ่ที่มีพยางค์หลังเป็น -ther  ก็จะออกเสียงเป็น -เดอระ- เช่น other, another, either, neither, together, weather, whether, mother, father, และ brother เป็นต้น   ก็ไม่เสมอไปนะครับ ether อ่านว่า -[อี]-เธอระ-  นอกเหนือจาก สองกลุ่มนี้ เสียง th ที่เป็นพยัญชนะต้นหรือกลางในคำอื่น ๆ ก็มักจะเป็นเสียง -ธ- แทบทั้งสิ้น

 

เสียง th ลงท้าย

ในกรณีที่เป็นเสียงลงท้าย การออกเสียงก็มีหลักการคล้ายกับที่เราได้เห็นมาแล้วในพยัญชนะอื่น ๆ  คือ หนึ่งต้องทำปากให้ถูก  สองก็ออกเสียงลมตอนปลายออกมาพอได้ยินเป็น -ธึด- หรือ -เธอะ- ในกรณีที่เสียงลงท้ายเป็น -ธ-  เช่น  breath -เบรธ- เป็นคำนามแปลว่า ลมหายใจ  เมื่อคำนี้เปลี่ยนเป็นคำกริยา  breathe ออกเสียงว่า -บรีด-  คราวนี้เสียงลงท้าย กลายเป็นเสียงก้อง ซึ่งก็ทำให้คำ ๆ นี้ออกเสียงยาวขึ้นหน่อย และมีเสียงเอื้อนตอนท้ายเป็น  -ดึด- หรือ -เดอะ- พอได้ยิน  อย่าลืมว่า เสียง -ด- จาก th ไม่เหมือนเสียง  -ด- จาก d สะทีเดียว  ถ้าจะเอาให้ถูกต้องเป๊ะ ก็ให้ยื่นลิ้นออกมาจากฟันมากขึ้นหน่อย

ในกรณีของ th ที่เป็นพยางค์ลงท้าย  คำที่เป็นเสียง -ด- ก็ยิ่งอยู่ในวงแคบลงไปอีก มีเฉพาะในคำกริยาบางคำเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะลงท้ายด้วย the แต่ไม่ออกเสียง e เช่น

  • bathe  -เบด- แปลว่า อาบน้ำ มาจากคำนามว่า bath -บาธ- หรือ -แบธ-  ให้ระวังว่า คำที่มาจากกริยาก็ต้องออกเสียงตามคำกริยานะครับ เช่น sun bathing อาบแดด  หรือ bathing suit ชุดว่ายน้ำ    ตรง bathing ต้องออกเสียงว่า -[เบ]-ดิง-  ไม่ใช่ -[บา]-ธิง-
  • breathe -บรีด-  breathing -[บรี]-ดิง-  มาจากคำนาม breath -เบรธ-
  • teethe -ทีด-  แปลว่า ฟันขึ้น(สำหรับเด็ก ๆ)  มาจากคำนามว่า tooth -ทูธ- กับ teeth -ทีธ-
  • soothe  -สูด-   แปลว่า ทำให้ผ่อนคลาย หรือสงบลง
  • smooth -สะ-[มูด]- แปลว่า เรียบ หรือ ทำให้เรียบ

คำอื่น ๆ ที่ลงท้ายด้วย th ก็ออกเสียงเป็น -ธ- แทบทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เห็นคำไหนที่ไม่รู้จักลงท้ายด้วย th  ถ้าให้มั่วก็มั่วไว้ก่อนว่าเป็นเสียง  -ธ- ครับ และว่าไปแล้วสองเสียงนี้ก็ไม่ต่างกันมากนัก ตอนเป็นเสียงลงท้าย เช่น

  • both  -โบธ-
  • health -เฮลธ-   healthy -[เฮล]-ธี-
  • booth  -บูธ-
  • faith -เฟธ-
  • north  -นอรธ-
  • depth -เดพธ-
  • width -วิดธ-
  • fourth -โฟรธ- หรือ ฟอรธ-, fifth  -ฟิฟธ-,  sixth -สิคสธ-, …   และอื่น ๆ
  • with คำนี้ได้ทั้งสองแบบ -วิธ-หรือ -วิด- ก็ได้    without ก็เป็น -วิ-[เธา]- หรือ -วิ-[เดา]-   within ก็เป็น -วิ-[ธิน]- หรือ -วิ-[ดิน]- ก็ได้

แบบฝึกหัดการออกเสียง th

» ไปบทถัดไป 13. เสียง j    » กลับไปที่ สารบัญ

Updated: 19 มกราคม 2017

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

eleven − 11 =

Copyright © 2013-2024 betterenglishforthai.net