เสียงที่เป็นคู่หูกันอีกคู่หนึ่งก็คือ k กับ g ครับ ถ้าได้อ่านคู่ p กับ b มาแล้ว กรณี k กับ g นี้ก็มีเรื่องราวคล้ายกัน กล่าวคือ k เป็นเสียงไม่ก้อง และ g เป็นเสียงก้อง ทั้งสองเสียงทำรูปปากเหมือนกัน เสียง k ก็เหมือน ค และเสียง g ก็เหมือนเสียง ก ของไทย มีคำที่ขึ้นด้วยอักษร c หลาย ๆ คำที่ออกเสียงเป็น -ค- เช่น cat ก็ต้องเรียนรู้เป็นคำ ๆ ไป แต่ส่วนใหญ่เราก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรนะครับสำหรับเสียงนี้เมื่อเป็นเสียงของพยัญชนะต้น
เสียง k และ g ลงท้าย
ปัญหาของเสียง k และ g ก็มีเช่นเดียวกับคู่พยัญชนะอื่น ๆ คือ เมื่อเสียงนี้เป็นเสียงลงท้าย ถ้าอ่านเรื่อง t กับ d หรือ p กับ b มาแล้วก็คงเดาออกว่าจะออกเสียง k กับ g ลงท้ายได้อย่างไร เสียง k ลงท้ายจะทำให้สระเป็นเสียงสั้น ส่วนเสียง g ลงท้ายจะทำให้สระมีเสียงยาว และลุ่มลึก ลองดูตัวอย่าง เปรียบเทียบ และหัดพูดคำเหล่านี้ดู
- lock -ล็อค- log -ลอก-
- tack -แท็ค- tag -แทก-
- rack -แร็ค- rag -แรก-
- lake -เลค- leg -เลก-
- block -บล็อค- blog -บลอก-
- park -พารค- อันนี้มีเสียง -ร- ทำให้สระเสียงยาวหน่อย บังเอิญหาคำที่ลงท้ายด้วย rg มาเทียบกันไม่ได้
คำที่ลงท้ายด้วย ge เช่น page จะออกเป็นเสียง -จ- นะครับ ไม่ใช่เสียง -ก- อันนี้จะพูดถึงในบทที่ 13
คำบางคำไม่ได้ลงท้ายด้วยอักษร k แต่ก็ลงท้ายด้วยเสียง -ค- นะครับ ก็ต้องเรียนรู้เป็นคำ ๆ ไป
- technique -เทค-[นีค]-
- antique -แอน-[ทีค]-
- monarch -มอ-นารค- เน้นทั้งสองพยางค์เท่า ๆ กัน หรือ -[มอ]-นารค-
เมื่อ k เพี้ยนเป็น “ก”
คนไทยชอบพูดเสียง k เพี้ยนเป็นเป็นเสียง -ก- ในบางคำโดยไม่จำเป็นครับ สังเกตจากการทับศัพท์ของเรา คำเฉพาะหลายคำที่เป็นเสียง ก เราดันไปเขียนเป็นภาษาอังกฤษด้วยตัว k ทำเอาฝรั่งพูดไม่ชัดโดยไม่จำเป็น ผมเคยเอา GPS ที่อ่านชื่อถนนได้ จากอเมริกามาใช้เมืองไทย เจ้า GPS นี้ก็พูดไม่ชัดลักษณะเดียวกันแหละครับ ตัวอย่างเช่น สมเกียรติ ควรเขียนว่า Somgiat แทนที่จะเป็น Somkiat (ทำให้ฝรั่งพูดเป็น สมเขียด ขออภัยคุณสมเกียรติทั้งหลายนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจล้อเลียน แค่ยกตัวอย่างให้เห็นชัด) หรือคำว่า กิ่งแก้ว ก็ควรเขียนเป็น Ginggaew แทนที่จะเป็น Kingkaew คราวนี้ลองมาดูคำภาษาอังกฤษบางคำที่ควรออกเสียง -ค- แต่เรามักออกเป็นเสียง -ก- กัน เช่น
- Hong Kong -ฮอง-คอง-
- รถยนต์ยี่ห้อ Kia ก็ออกเสียงว่า -เคีย- ไม่ใช่ -เกีย-
ที่นี้คำที่ตัว k ออกเสียงเพี้ยนไปคล้ายกับ -ก- ก็มีครับ มีเยอะด้วย ไม่ใช่ไม่มี หลักการก็คล้ายกับการเพี้ยนเสียง p ไปเป็นตัว -ป- ที่ได้กล่าวไปในบทที่ 10 นะครับ เช่น คำว่า skip ออกเสียงว่า -สะ-[กิพ]- พจนานุกรมเขาก็บอกให้ออกเสียง -ค- นะครับ แต่ถ้าให้เราฟัง เราฟังเป็นคล้ายเสียง -ก- มากกว่า ฝรั่งก็ทำได้โดยธรรมชาตินะครับ คือ ถ้าเราพยายามพูด -สะ-[คิพ]- ให้สบาย ๆ มันจะพูดยากกว่า ปล่อยปากให้มันสบาย ๆ มันก็ฟังคล้ายกับ -สะ-[กิพ]- ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ใช่เสียง -ก- แท้ ๆ ใครที่สามารถทำได้ให้ก้ำกึ่งระหว่างเสียง -ก- กับ -ค- ก็ถือว่าดีที่สุด แต่ก็เอาตามที่ถนัดปากที่สุดแล้วกันนะครับ ไม่ต้องเครียด คำที่มีตัว k ตามหลังเสียง s ก็มักจะออกเสียงเพี้ยนอย่างนี้ ดูตัวอย่างเพิ่มเติม เช่น
- skill -สะ-[กิล]-
- skunk -สะ-[กังค]-
- school -สะ-[กูล]-
- excuse -อิคส-[กูวส]-
- escape -เอส-[เกพ]-
อีกกรณีหนึ่งที่เสียง k เพี้ยนไปคล้ายเสียง -ก- ได้ก็คือ เวลาอยู่ในพยางค์ที่ไม่เน้นในคำ อันนี้เรามักออกเสียงกันได้อยู่แล้ว แต่ใครจะไม่เพี้ยนออกเสียงเป็น -ค- ก็ได้นะครับ แล้วแต่ถนัด ผมจะเขียนเฉพาะคำอ่านที่เป็นเสียง -ก- ในที่นี้ เช่น
- locking -[ล็อค]-กิง-
- take it -[เทค]-กิท- เป็นสองคำก็ได้ พูดติด ๆ กันก็ยังออกเสียงเหมือนคำเดียว
- thinking -[ธิค]-กิง-
- attacker -เอะ-[แทค]-เกอระ-
- market -[มาร]-เกท-
- rocket -[รอค]-เกท-
- marker -[มารค]-เกอระ-
- package -[แพค]-เกจ-
เน้นว่าต้องเป็นพยางค์ที่ไม่เน้น ถ้าเน้นก็ต้องออกเสียงเป็น -ค- เหมือนปกติ เช่น mankind -แมน-คาย- คำนี้เน้นทั้งสองพยางค์เท่ากัน หรือ คำเฉพาะบางคำ เช่น Bangkok ก็นิยมออกเสียงว่า -[แบง]-คอค- มากกว่า -[แบง]-กอค-
» ไปบทถัดไป 12. เสียง th » กลับไปที่ สารบัญ