would, could, should, etc ตอนที่ 2 การขอร้อง

Would นี่จะเรียกว่าเป็นทำนอง อนาคตแบบสมมติ หรือแบบคาดคะเนก็ได้  คิดว่าเราอาจได้เรียนเรื่องรูปประโยคแบบเงื่อนไข (if) มาบ้างแล้ว ทบทวนกันนิดหน่อย เช่น สองประโยดนี้มีความหมายเดียวกันว่า “ถ้าคุณมา เราจะออกไปเที่ยวด้วยกัน”

  • If you come, we will go out together.
  • If you came, we would go out together.

ประโยคที่สองไม่ได้มีความหมายเป็นอดีตกาลแต่ประการใด เป็นอนาคตแบบสมมติเหมือนประโยคที่หนึ่ง  แต่ที่แตกต่างกัน คือ ในประโยคที่สอง ผู้พูดไม่คิดว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น หรือมีความมั่นใจน้อยกว่า  เช่นอาจจะรู้ว่าคนฟังติดงานอยู่มาไม่ได้  หรือ อยู่ต่างจังหวัด คงจะมาไม่ได้  หรือในอีกกรณีหนึ่งก็คือ เป็นทำนองชวนให้เขามาแบบเกรงใจ ๆ หน่อย  เช่น อาจจะรู้ว่าเขาไม่ค่อยอยากจะมา หรือเป็นการรบกวนเขา  เราก็พูดในทำนองแบบไม่มั่นใจโดยใช้ would  ช่วย ก็จะทำให้ฟังดูหวานหูขึ้นนิดหน่อย  ลองดูอีกตัวอย่างหนึ่งให้ชัดเจนไปเลย  เช่น ถ้าจะขอให้ใครช่วยแบบเพราะ ๆ ก็พูดว่า  “ถ้าคุณช่วยได้ ก็จะดีมากเลย”

  • If you can help, that will be great.
  • If you could help, that would be great.

ประโยคที่สองเป็นการขอแบบนุ่มนวลกว่าครับ ออกแบบเกรงใจกว่าหน่อย  นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า ประโยคแรกไม่สุภาพ หรือไม่แสดงถึงความไม่เกรงใจอะไรนะครับ  แค่ความรู้สึกต่างกันนิดหน่อย    ความสุภาพ หรือเกรงใจนั้นก็ขึ้นกับสถานการณ์ ความสนิทสนม และน้ำเสียงด้วย  คำพูดเป็นแค่องค์ประกอบเดียว   ลองดูวิธีพูดเพื่อขอให้ใครทำอะไรให้  เรียงจากปากหวานน้อยหน่อย ไปมากหน่อยนะครับ   บางคนก็เติม please ตอนท้ายด้วยก็ได้ ให้หวานขึ้นไปอีก  ทุกแบบนี้ก็ถือว่า สุภาพทั้งนั้นนะครับ

  • Can you do this for me?
  • Could you do this for me?  หรือ  Would you do this for me?  เมื่อใช้ could หรือ would แทน can การเป็นอนาคตแบบสมมติในที่นี้ก็เลยกลายเป็นการแสดงออกถึงความสุภาพ และเกรงใจไป
  • Would you mind doing this for me?  นี่ก็แปลว่า  คุณจะรังเกียจไหมที่จะทำอันนี้ให้ฉัน  จะใช้ Do you mind ก็ได้  แต่ Would ฟังเพราะกว่า
  • If you could do this for me, that would be great.  นี่ก็แบบเต็มยศ  ใช้พอประมาณนะครับ  อย่าไปพูดหลาย ๆ ครั้งติดกันเกินไป อาจจะทำให้ดูดัดจริต  คิดว่า ภาษาไทยเราก็มีความรู้สึกคล้าย ๆ กัน ใช่ไหมครับ

Would you mind หรือ Do you mind นี่ก็นิยมใช้มาก ๆ เมื่อตามด้วย if I  เวลาขออนุญาติว่าเราจะทำอะไรได้หรือไม่  เช่น เวลาไปกินข้าวร้านอาหารแล้วโต๊ะเต็ม จะขอนั่งโต๊ะเดียวกับคนอื่น  เราก็พูดได้ว่า

  • Can I sit here?  หรือ May I sit here?   อันนี้ใช้ Would I ไม่ได้นะครับ  Could I ก็ไม่นิยม
  • Do you mind if I sit here?   อันนี้ฟังไพเราะกว่า และดูเกรงใจกว่าแบบแรกมาก
  • Would you mind if I sit here?  ก็ใช้ would ให้ไพเราะขึ้นอีกหน่อย   ใครแม่นไวยกรณ์อาจแย้งว่า ต้องใช้ sat ไม่ใช่ sit ในที่นี้ ให้เข้ากับรูปประโยค would   ผมว่าใช้ได้ทั้งสองอย่างครับ  มันเป็นภาษาพูด ถ้าคนใช้กันทั่วไปแบบนี้ มันก็กลายเป็นถูกไป

ก็มีเกร็ดอีกเล็กน้อย เวลาตอบคำถามข้างต้น ถ้าเราจะตอบยินยอมอนุญาติ ก็ตอบว่า Yes, you can. หรือ Yes, you may.  เวลาเขาถามว่า Can I หรือ May I.   แต่เวลาเขาถามว่า  Do you mind หรือ Would you mind  กลับต้องตอบว่า  No, I don’t. หรือ No, I wouldn’t. หรือ Not at all. ก็นิยมใช้กัน  เนื่องจาก ภาษาไทยเราไม่นิยมถามกันแบบนี้ บางทีก็เราก็เผลอตอบว่า Yes, you can. หรือ Yes, please go ahead. ก็ได้  แต่อย่าไปตอบสั้น ๆ ว่า Yes ก็จะทำให้คนถามงงได้  เพราะสุภาพชนเขาจะไม่ตอบดื้อ ๆ ว่า ใช่ ฉันรังเกียจ  ถ้าจะตอบไม่ยินยอมก็ต้องอ้างเหตุผลไป เช่น ตอบว่า Sorry, this seat is taken. ขอโทษที ตรงนี้มีคนนั่งแล้ว

Updated: 15 มีนาคม 2014

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

5 × two =

Copyright © 2013-2024 betterenglishforthai.net